เมนู

โอกาสวาระ


กายสังขารมูล


กายสังขารมูละ ฯ ล ฯ


[1165] กายสังขารไม่ใช่กำลังดับในภูมิใด ฯ ล ฯ
กายสังขารมูล จบ
โอกาสวาระ จบ

ปุคคโลกาสวาระ


กายสังขารมูล


กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี :-


[1166] กายสังขารไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลไดในภูมิใด, วจี-
สังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
บุคคลที่กำลังเข้าปฐมฌานอยู่ก็ดี ในปุปปาทขณะแห่งลม
อัสสาสะปัสสาสะของบุคคลซึ่งเกิดอยู่ในกามาวจรภูมิก็ดี เว้นลมอัสสาสะ
ปัสสาสะของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในภังคขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่
เกิดอยู่ในรูปาวจรภูมิก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอรูปาวจรภูมิก็ดี กายสังขาร

ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่วจีสังขารจักดับแก่บุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตกและมีวิจารก็ดี
บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี ปัจฉิม-
จิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารจักเกิดในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลที่กำลัง
เข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะ
ของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ใน
ภังคขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าจตุตถฌานอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่
ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี กายสังขารไม่ใช่กำลังดับ และวจีสังขารก็ไม่ใช่
จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
ก็หรือว่า วจีสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กายสังขาร
ก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี ในภังคขณะแห่ง
ลมอัสสาสะปัสสาสะก็ดี วจีสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้น แต่กายสังขารกำลังเกิดแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น, ในภังคขณะ
แห่งปัจฉิมจิตที่มีวิตกและมีวิจารก็ดี บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยปรินิพพานจิต
ที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารก็ดี ปัจฉิมจิตที่ไม่มีวิตกและไม่มีวิจารจักเกิด
ในลำดับแห่งจิตใดก็ดี บุคคลที่กำลังเข้าทุติยฌาน ตติยฌานอยู่ก็ดี
ในอุปปาทขณะแห่งลมอัสสาสะปัสสาสะของบุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ
เว้นลมอัสสาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในภังคขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่กำลัง

เข้าจตุตถฌาณอยู่ก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี วจีสังขารไม่
ใช่จักดับ และกายสังขารก็ไม่ใช่กำลังแก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น.
จบ กายสังขารมูละ วจีสังขารมูลี

กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี :-


[1167] กายสังขารไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, จิตต-
สังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
ในอุปปาทขณะแห่งจิตของบุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เว้นลมอัส-
สาสะปัสสาสะเสียแล้ว ในภังคขณะแห่งจิต กายสังขารไม่ใช่กำลังดับ
แก่บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น แต่จิตตสังขารจักดับแก่บุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้น, ในภังคขณะแห่งจิตก็ดี บุคคลที่เกิดอยู่ในอสัญญสัตตภูมิก็ดี
กายสังขารไม่ใช่กำลังดับ และจิตตสังขารก็ไม่ใช่จักดับแก่บุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้น.
ก็หรือว่า จิตตสังขารไม่ใช่จักดับแก่บุคคลใดในภูมิใด, กาย-
สังขารก็ไม่ใช่กำลังดับแก่บุคคลนั้นในภูมินั้น ใช่ไหม ?
ใช่.
จบ กายสังขารมูละ จิตตสังขารมูลี
กายสังขารมูล จบ